logo
กรมธนารักษ์
สำนักงานธนารักษ์พื้นที่บุรีรัมย์
THE TREASURY
DEPARTMENT
MENU
  • A
  • A
  • A

เกี่ยวกับจังหวัด

 

 

ประวัติความเป็นมาของจังหวัดบุรีรัมย์ (HISTORY)

     บุรีรัมย์เป็นเมืองแห่งความรื่นรมย์ตามความหมายของชื่อเมืองที่น่าอยู่สำหรับคนในท้องถิ่นและเป็นเมืองที่น่ามาเยือนสำหรับคนต่างถิ่น เมืองปราสาทหินในเขตจังหวัดบุรีรัมย์มากมีไปด้วย ปราสาทหินใหญ่น้อย อันหมายถึงความรุ่งเรืองมาแต่อดีต จากการศึกษาของ นักโบราณคดีพบหลักฐานการอยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยทราวดี และที่สำคัญที่สุดพบกระจายอยู่ทั่วไป ในจังหวัดบุรีรัมย์มากคือ หลักฐานทางวัฒนธรรมของเขมรโบราณ ซึ่งมีทั้งปราสาทอิฐ และปราสาทหินเป็นจำนวนมากกว่า 60 แห่ง แล้วหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มมีขึ้นอีกครั้งตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยปรากฏชื่อว่าเป็นเมืองขึ้น ของเมืองนครราชสีมาและปรากฏชื่อต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ว่าบุรีรัมย์มีฐานะเป็นเมือง ๆ หนึ่ง จนถึง พ.ศ.2476 ได้มีการจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาคใหม่ จึงได้ชื่อเป็นจังหวัดบุรีรัมย์มาจนถึงปัจจุบันนี้ชื่อเมืองบุรีรัมย์ พ.ศ. 2319 รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กรุงธนบุรี กรมการเมืองนครราชสีมา มีใบยอกเข้ามาว่า พระยานางรองคบคิดเป็น กบฏร่วมกับเจ้าโอ เจ้าอิน และอุปฮาดเมืองจำปาศักดิ์ จึงโปรดให้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อยังดำรงคำแหน่ง เจ้าพระยาจักรี เป็นแม่ทัพไปปราบจับตัวพระยานางรองประหารชีวิต และได้รวบรวมผู้คนตั้งเมืองขึ้นในเขตขอมร้า เรียกว่า เมืองแปะ แต่งตั้งบุรีรัมย์บุตรเจ้าเมืองผไทสมัน (พุทไธสง) ให้เป็นเจ้าเมือง ซึ่งต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เปลี่ยนชื่อเมืองแปะเป็นบุรีรัมย์ด้วย

      บุรีรัมย์ แบ่งการปกครองออกเป็น 18อำเภอ กับ 4กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ อำเภอนางรอง อำเภอลำปลายมาศ อำเภอประโคนชัย อำเภอพุทไธสง อำเภอสตึก อำเภอกระสัง อำเภอบ้านกรวด อำเภอคูเมือง อำเภอละหานทราย อำเภอหนองกี่ อำเภอปะคำ อำเภอนาโพธิ์ อำเภอหนองหงส์ อำเภอพลับพลาชัย อำเภอห้วยราช อำเภอโนนสุวรรณ อำเภอเฉลิมพระเกียรติจังหวัดบุรีรัมย์ กิ่งอำเภอบ้านด่าน กิ่งอำเภอชำนิ กิ่งอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ และกิ่งอำเภอโนนดินแดง อำเภอที่อยู่ติดชายแดนได้แก่ อำเภอบ้านกรวด และอำเภอละหานทราย

วิศัยทัศน์จังหว้ดบุรีรัมย์

"คนบุรีรัมย์มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีบ้านเมืองน่าอยู่ และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางอารยธรรมขอม"

คำขวัญ 


" เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม เลิศล้ำเมืองกีฬา"

edbe23421981a80bdb27268c51af47f9

 

ตราประจำจังหวัดบุรีรัมย์


        เป็นรูปปราสาทเขาพนมรุ้งมีกำแพงล้อมรอบ ภายในเป็นท้องพระโรง มีเทวสถาน และรอยพระพุทธบาทจำลองประดิษฐานอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ด้วยภาพเทวดาร่ายรำ หมายถึงดินแดนแห่งเทพเจ้าผู้สร้าง ผู้ปราบยุคเข็ญ และผู้ประสาทสุข ท่่าร่ายรำ หมายถึงความสำราญชื่นชมยินดี ซึ่งตรงกับการออกเสียงพยางค์สุดท้ายของเชื่อจังหวัด

 

 ดอกไม้ประจำจังหวัด
ได้แก่ ดอกสุพรรณิการ์ หรือ ดอกฝ้ายคำ

 

ต้นไม้ประจำจังหวัด

ได้แก่ ต้นแป๊ะ

 

ที่ตั้งและอาณาเขต

          จังหวัดบุรีรัมย์  ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย  อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร  โดยรถยนต์ประมาณ  410  กิโลเมตร  ทางรถไฟประมาณ  376  กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 10,321,885 ตารางกิโลเมตรหรือ 6,451,178 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 6.11 ของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือร้อยละ 2.01 ของประเทศใหญ่เป็นอันดับ 6  ของประเทศ  มีอาณาเขตติดกับจังหวัดและประเทศใกล้เคียง  ดังนี้

                                      ทิศเหนือ              ติดต่อกับจังหวัดขอนแก่น  มหาสารคาม  และสุรินทร์
                                      ทิศตะวันออก         ติดต่อกับจังหวัดสุรินทร์
                                      ทิศใต้                 ติดต่อกับจังหวัดสระแก้ว  และราชอาณาจักรกัมพูชา
                                      ทิศตะวันตก          ติดต่อกับจังหวัดนครราชสีมา

อำเภอ

การปกครองแบ่งออกเป็น 23 อำเภอ189 ตำบล2212 หมู่บ้าน

  1. อำเภอเมืองบุรีรัมย์
  2. อำเภอคูเมือง
  3. อำเภอกระสัง
  4. อำเภอนางรอง
  5. อำเภอหนองกี่
  6. อำเภอละหานทราย
  7. อำเภอประโคนชัย
  8. อำเภอบ้านกรวด
  9. อำเภอพุทไธสง
  10. อำเภอลำปลายมาศ
  11. อำเภอสตึก
  12. อำเภอปะคำ
  1. อำเภอนาโพธิ์
  2. อำเภอหนองหงส์
  3. อำเภอพลับพลาชัย
  4. อำเภอห้วยราช
  5. อำเภอโนนสุวรรณ
  6. อำเภอชำนิ
  7. อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์
  8. อำเภอโนนดินแดง
  9. อำเภอบ้านด่าน
  10. อำเภอแคนดง
  11. อำเภอเฉลิมพระเกียรติ

 

ระยะทางจากอำเภอเมืองไปยังอำเภอต่างๆ

อำเภอ ระยะทาง (กม.) อำเภอ ระยะทาง (กม.)
ห้วยราช 10 หนองหงส์ 60
บ้านด่าน 17 พุทไธสง 64
กระสัง 30 บ้านกรวด 66
ลำปลายมาศ 31 เฉลิมพระเกียรติ 70
คูเมือง 34 โนนสุวรรณ 70
สตึก 40 ปะคำ 78
ประโคนชัย 44 นาโพธิ์ 80
นางรอง 55 บ้านใหม่ไชยพจน์ 80
พลับพลาชัย 58 หนองกี่ 83
แคนดง 59 โนนดินแดง 92
ชำนิ 59 ละหานทราย 99

 

ลักษณะภูมิประเทศ

  • ทุ่งกุลาร้องไห้

ภูมิอากาศ

 

การเดินทางมาจังหวัดบุรีรัมย์

รถโดยสารประจำทาง

  • สายกรุงเทพ - บุรีรัมย์ ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร)(หมอชิต) มาลงที่สถานีขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์มีบริการทั้งกิจการทัวร์ , บริษัทขนส่ง จำกัด , ศิริรัตนพลทัวร์ , นครชัยแอร์
  • กรุงเทพ - พนมรุ้ง - กรุงเทพ มีทั้งบริการรถประอากาศชั้น 1 และ 2 ใช้เวลาเดินทาง 6 - 7 ชั่วโมง
  • กรุงเทพ - พุทไธสง -กรุงเทพ มีบริการรถปรับอากาศ VIP และชั้น 1 ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง
  • กรุงเทพ - อุบลราชธานี
  • กรุงเทพ - สุรินทร์
  • กรุงเทพ - ศรีสะเกษ
  • อุบลราชธานี - ระยอง
  • อุบลราชธานี - ภูเก็ต
  • มุกดาหาร - พัทยา แวะจอดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีทั้งรถปรับอากาศชั้น 1 และ 2
  • บุรีรัมย์ - นครราชสีมา ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง
  • บุรีรัมย์ - สุรินทร์ ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง
  • บุรีรัมย์ - ขอนแก่น ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง
  • บุรีรัมย์ - จันทบุรี ใช้เวลาเดินทาง 10 ชั่วโมง
  • บุรีรัมย์ - อรัญประเทศ ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง
  • บุรีรัมย์ - ร้อยเอ็ด ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง
  • บุรีรัมย์ - นางรอง จุดหมายปลายทางที่อำเภอนางรองปราสาทหินเขาพนมรุ้งและ ปราสาทเมืองต่ำ
  • บุรีรัมย์ - ประโคนชัย - บ้านกรวด - ละหานทราย จุดหมายปลายทางที่วัดป่าพระสบาย อำเภอบ้านกรวดอ่างเก็บน้ำสนามบิน และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด
  • บุรีรัมย์ - พุทไธสง จุดหมายปลายทางที่ อำเภอพุทไธสง
  • บุรีรัมย์ - สตึก จุดหมายปลายทางที่ อำเภอสตึก
  • สายตลาดเทศบาล - เขากระโดง (สาย 1) ขึ้นรถได้ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และสถานีขนส่ง

รถไฟ

จังหวัดบุรีรัมย์มีขบวนรถด่วนพิเศษสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี เป็นรถนั่งปรับอากาศชั้น 2 ทั้งขบวน ขบวนรถด่วนสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี, กรุงเทพ-ศรีสะเกษ และกรุงเทพ-ศีขรภูมิ ขบวนรถเร็วสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี รวมทั้งสิ้น 4 ขบวน ขบวนรถธรรมดาสายกรุงเทพ-สุรินทร์ และขบวนรถท้องถิ่นสายนครราชสีมา-อุบลราชธานี รวมทั้งสิ้น 3 ขบวน จังหวัดบุรีรัมย์มีสถานีรถไฟตามเส้นทางรถไฟสายนครราชสีมา-อุบลราชธานีผ่านอำเภอต่างๆ ดังนี้

เครื่องบิน

ปัจจุบันบริษัท นกแอร์จำกัด และบริษัท ไทย รีเจียนัล แอร์ไลน์จำกัด มีเครื่องบินไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ มาลงที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์(อำเภอสตึก) อยู่ประจำ

 

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์

พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1

สถานที่ตั้ง

ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนถนนสายบุรีรัมย์-สตึก ตัดถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย

รายละเอียด    

เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ ที่พสกนิกรชาวบุรีรัมย์ได้ร่วมกันสร้างขึ้น ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แห่งผู้สถาปนาเมืองบุรีรัมย์ และเพื่อเป็นอนุสรณ์สักการะ รวมทั้งศูนย์รวมจิตใจที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และมหาจักรีบรมราชวงค์      

 

มหกรรมว่าวอีสานจังหวัดบุรีรัมย์
 
สถานที่จัดกิจกรรม สนามกีฬาอำเภอห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์
รายละเอียด  
  มหกรรมว่าวอีสานเป็นงานสำคัญประจำปีของจังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้นในเดือนธันวาคมของทุกปี ในงานมีการแข่งว่าวประเภทต่างๆ เช่น ว่าวแอกโบราณ ว่าวแอกพัฒนา ว่าวสวยงาม ว่าวนานาชาติ งานแสดงหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และมหรสพ     

 

งานประเพณีแข่งเรือยาวจังหวัดบุรีรัมย์
 
สถานที่จัดกิจกรรม ลำน้ำมูล บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์
รายละเอียด  
  งานประเพณีแข่งเรือยาว ลำน้ำมูลบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสตึก จัดขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นการแข่งเรือหลายประเภทชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีการแข่งขันช้างว่ายน้ำ แข่งช้างแฟนซี ช้างพาเหรด ซึ่งหาดูได้ยาก    
 
เขื่อนลำนางรอง
 
สถานที่ตั้ง ตำบลโนนดินแดง อำเภอโนนดินแดง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 107 กิโลเมตร และห่างจากตัวอำเภอประมาณ 2.5 กิโลเมตร
เบอร์ติดต่อ ภายในร้านค้าสวัสดิการมีบริการบ้านพักรับรอง ห้องประชุม สัมมนา และค่ายพักแรม ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 044-631156
รายละเอียด  
  เป็นเขื่อนดินฐานคอนกรีตขนาดใหญ่ จุน้ำได้ประมาณ 150 ล้านลูกบาศก์เมตร มีถนนลาดยางบนสันเขื่อนเชื่อมต่อไปยังหมู่บ้านตัวอย่าง หมู่บ้านพัฒนาหนองตาเยาว์ และหนองหว้า ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนเพียง 20 กว่ากิโลเมตรเท่ากัน ที่สันเขื่อนมีหินลอย (หินภูเขาไฟอีกชนิดหนึ่ง) เป็นก้อนและแผ่นสีสันแบ่งกันเป็นชั้นสวยงาม ซึ่งได้นำไปกองกั้นน้ำเซาะสันเขื่อน 
เขื่อนลำนางรองเป็นที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงในอำเภอโนนดินแดง บรรยากาศสวยงาม มีที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก ด้วยทะเลสาบเหนือเขื่อนอันกว้างใหญ่ หาดทรายสวยงามบรรยากาศดี ชาวบุรีรัมย์จึงนิยมพาครอบครัวไปพักผ่อน เล่นน้ำและรับประทานปลาสดจากเขื่อน
 
 
ศูนย์หัตถกรรมทอผ้าไหมนาโพธิ์
 
สถานที่ตั้ง อยู่ในบริเวณตลาด อ.นาโพธิ์ ในซอยหลังศูนย์สงเคราะห์ราษฎรบ้านนาโพธิ์
เบอร์ติดต่อ 044-686056,044-6866044
รายละเอียด  
  บุรีรัมย์เป็นจังหวัดในภาคอีสานที่มีชื่อเสียงในด้านการทอผ้าไหมมาเป็นเวลาช้านานแล้ว มีการทอทั่วทุกอำเภอ แหล่งทอผ้าไหมที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดของจังหวัดบุรีรัมย์อยู่ที่อำเภอพุทไธสง และอำเภอนาโพธิ์ โดยเฉพาะที่อำเภอนาโพธิ์จะได้รับการสนับสนุนจากโครงการศิลปาชีพพิเศษ ด้านการออกแบบลวดลาย และการจัดจำหน่ายผ้าไหมของอำเภอพุทไธสง และอำเภอนาโพธิ์ มักได้รับรางวัลจากการประกวดในที่ต่างๆ เป็นประจำ
ผ้าไหมที่อำเภอนาโพธิ์จะมีทั้งผ้าไหมพื้นไหมหางกระรอก ผ้าโสร่ง ผ้าขาวม้า และผ้ามัดหมี่ การทอผ้ามัดหมี่จะมีลายพื้นเมืองดั้งเดิม และลายที่ประยุกต์ขึ้นใหม่ ลักษณะเด่นของผ้าไหมบุรีรัมย์ คือเนื้อจะแน่น เส้นไหมละเอียด ถ้าเป็นผ้าไหมมัดหมี่ที่เป็นแบบพื้นเมืองดั้งเดิมจะนิยมใช้สีขรึมๆ ไม่ฉูดฉาด

 

ปรางค์กู่สวนแตง
 
สถานที่ตั้ง ด้านหลังโรงเรียนกู่สวนแตงวิทยาคม บ้านดอนหวาย ต.หนองแวง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ริมทางหลวงหมายเลข 2061
การเดินทาง ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ประมาณ 74 กิโลเมตร การเดินทางจากจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 219 ผ่านอำเภอสตึก จนถึงสี่แยกเข้าอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย เลี้ยวซ้ายผ่านอำเภอพยัคภูมิพิสัยตามทางหลวงสาย 202 เข้าเขตอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ด้านซ้ายมือมีทางแยกเข้าโรงเรียนสวนแตงวิทยาคม ประมาณ 500 เมตร กู่สวนแตง ตั้งอยู่ทางโค้งริมถนนด้านขวามือ มีภาพสลักบนทับหลังอยู่หลายภาพ
รายละเอียด  
 

ปรางค์กู่สวนแตงเป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 โดยได้รับอิทธิพลจากศิลปกรรมสมัยนครวัดเป็นโบราณสถานอีกแห่งที่ถูกวางระเบิดจนองค์ปรางค์พังทลายลงมาเพื่อโจรกรรม ชิ้นส่วนปราสาทไปขาย ภายหลังกรมศิลปากรได้บูรณะใหม่จนมีความสมบูรณ์ และประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2547

ลักษณะของกู่ประกอบด้วย ปรางค์อิฐ 3 องค์ ตั้งเรียงกันในแนวเหนือ-ใต้ บนฐานศิลาแลงเดียวกัน อาคารทั้งหมดหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีประตูหน้าเพียงประตูเดียว อีก 3 ด้าน สลักเป็นประตูหลอก ปรางค์องค์กลางมีขนาดใหญ่และมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ด้านหน้าทั้ง 3 ด้าน มีลักษณะยื่นออกมาและมีแผ่นศิลาทรายรองรับ ส่วนปรางค์อีกสององค์มีขนาดเล็กกว่าฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีประตูเดียวทางด้านหน้า เช่นกัน ส่วนผนังอีก 3 ด้าน ก่อเรียบทึบ สำหรับบนพื้นหน้าปรางค์มีส่วนประกอบสถาปัตยกรรมหินทรายอื่นๆ ตกหล่นอยู่ เช่น ฐานบัว ยอดปรางค์ กลีบขนุน รูปนาค 6 เศียร อายุของกู่สวนแตงสามารถกำหนดได้จากทับหลังของปรางค์ ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร อยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 17 เนื่องจากภาพสลักบนทับหลังทั้งหมดมีลักษณะตรงกับศิลปะขอมแบบนครวัด ที่มีอายุอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว อาทิเช่น ทับหลังสลักภาพพระนารายณ์ตรีวิกรม (ตอนหนึ่งในวามนาวตารแสดงภาพพระนารายณ์ย่างพระบาท 3 ก้าว เหยียบโลกบาดาล โลกมนุษย์ และโลกสวรรค์) ทับหลังภาพศิวนาฎราช ทับหลังภาพการกวนเกษียรสมุทร ทับหลังภาพนารายณ์บรรทมสินธุ์ ฯลฯ แต่ละชิ้นมีขนาดใหญ่สวยงามน่าสนใจยิ่ง

 

ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์
 
สถานที่ตั้ง ตั้งอยู่ในบริเวณสถาบันราชภัฎบุรีรัมย์
รายละเอียด  
  เป็นแหล่งเก็บรวบรวม และจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งเป็นแหล่งที่จะค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โบราณคดีและศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น ศูนย์แห่งนี้เปิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2536 นักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าชมได้ทุกวันในเวลาราชการ  

Ao_izard-0986-Medium-1024x683

7e61e620-78aa-11ea-a625-e9e0e9dec24e_original

1706157579336

วนอุนทยานภูเขาไฟกระโดง

วนอุนทยานภูเขาไฟกระโดง

วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และศึกษาประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยาและชีววิทยา เพราะเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องให้เห็นได้ชัดเจน มีโบราณสถานกู่เขากระโดง เป็นที่ประดิษฐานรองพระพุทธบาทจำลอง  และมี พระสุภัทรบพิตรพระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่เมืองบุรีรัมย์ อยู่บนยอดเขา  และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าเต็งรัง เนื้อที่ประมาณ 6 พันไร่ รวมทั้งพันธุ์ไม้พื้นเมืองที่หาชมได้ยาก เช่น ผลของต้นโยนีปีศาจ ที่มักพบในบริเวณเขตภูเขาไฟ  การขึ้นไปยังเขากระโดงสามารถทำได้สองวิธี คือ เดินขึ้นบันได  หรือ ขับรถขึ้นไปถึงยอดเขา ระหว่างทางจะพบพระพุทธรูปปางต่าง ๆ เรียงรายอยู่เป็นระยะ

วนอุทยานเขากระโดง ชื่อเดิมชาวบ้านเรียกเขากระโดงว่า พนมกระดอง เป็นภาษาเขมร แปลว่า ภูเขากระดอง (เต่า) เพราะมีรูปลักษณ์คล้ายกระดองเต่า ต่อมา จึงเรียกเพี้ยนเป็น กระโดง

 

5e5e41f69a771c1003000022-21533022384_28698874_1876770012395070_2683060402959591242_o

ปราสาทพนมรุ้ง

สถานที่ตั้ง    ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์

เวลาทำการ   เปิดให้เข้าชม: เปิดบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.

                 ปราสาทพนมรุ้ง ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นโบราณสถานศิลปะแบบเขมรในประเทศไทยที่มีความงดงามและมีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

                 ศาสนสถานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่องค์พระศิวะ เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย เขาพนมรุ้งและปราสาทบนยอดเขาจึงเปรียบเสมือนเขาไกรลาสอันเป็นที่ประทับของพระศิวะ และยังเป็นสัญลักษณ์ของศูนย์กลางจักรวาลอีกด้วย กลุ่มอาคารบนยอดเขามีการก่อสร้างหลายยุคสมัยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15 - 18

 ชื่อ “พนมรุ้ง” มาจากภาษาเขมรว่า “วนํรุง” แปลว่า ภูเขาอันกว้างใหญ่ โดยคำนี้ปรากฎอยู่ในศิลาจารึกอักษรขอมพบที่ปราสาทพนมรุ้ง

การเดินทาง  รถยนต์ จากกรุงเทพมหานคร เดินทางโดยเครื่องบินลงที่สนามบิน อ.สะตึก จ.บุรีรัมย์ และต่อรถยนต์มายังอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง

รถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี) ลงที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ และต่อรถยนต์มายังอุทยานประวัติสาสตร์พนมรุ้ง ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

รถโดยสารประจำทาง บขส. เส้นทางกรุงเทพฯ-พนมรุ้ง ระยะทางประมาณ 360 กิโลเมตร ลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอเฉลิมพระเกียรติ แล้วต่อรถรับจ้างขึ้นสู่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

17060682566601706068268412

สนามฟุตบอลช้างอารีนา

สถานที่ตั้ง    ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

สนามฟุตบอลช้างอารีนา (Chang Arena) เป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือทีมปราสาทสายฟ้า อีกทั้งยังเป็นสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่า สามารถจุผู้ชมได้มากที่สุดถึง 32,600 ที่นั่ง โดยตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์

สนามฟุตบอลช้างอารีนา (Chang Arena) เป็นสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนาม โดยได้ผ่านมาตรฐานระดับโลกจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ, มาตรฐานสนามกีฬาระดับเอจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย และสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียนอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังตั้งอยู่ใกล้กับสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งเป็นสนามแข่งรถมาตรฐานสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของช้าง อารีน่า ใจกลางเมืองบุรีรัมย์ ใกล้สนามบินบุรีรัมย์ ทำให้เมืองบุรีรัมย์ได้กลายเป็นเมืองแห่งการกีฬาเต็มรูปแบบอย่างแท้จริง 

การเดินทางไปยังสนามฟุตบอลช้างอารีนา

การเดินทางจากตัวเมืองบุรีรัมย์ไปยังสนามฟุตบอลช้างอารีนา (Chang Arena) สามารถเดินทางได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น

  • รถยนต์ส่วนตัว: จากตัวเมืองบุรีรัมย์ ใช้เส้นทางถนนหมายเลข 2445 เพื่อเข้าสู่สนามฟุตบอลช้างอารีนา
  • รถสองแถว: รถสองแถวสาย 1 (สีชมพู) โดยเส้นทางเริ่มจากสถานีรถไฟบุรีรัมย์-ชลประทานบุรีรัมย์ ขับผ่านหน้าสนามฟุตบอลช้างอารีนา

หรือหากเดินทางจากกรุงเทพก็สามารถเดินทางได้หลายวิธีเช่นเดียวกัน

  • การเดินทางโดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ระยะทาง 410 กิโลเมตร
  • การเดินทางโดยรถประจำทาง มีทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ โดยใช้สายกรุงเทพฯ–บุรีรัมย์ ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 
  • การเดินทางโดยรถไฟ สามารถเลือกเดินทางได้ 2 เส้นทางคือ สายกรุงเทพฯ–อุบลราชธานี และนครราชสีมา–อุบลราชธานี ลงที่สถานีบุรีรัมย์ทุกขบวน
  • การเดินทางโดยเครื่องบินลงที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ โดยใช้เวลาจากสนามบินบุรีรัมย์ถึงสนามฟุตบอลช้างอารีนาเพียง 35 นาทีเท่านั้น

 

17060691473031706068857763

ปราสาทเมืองต่ำ

สถานที่ตั้ง ปราสาทหินเมืองต่ำ ตำบล จรเข้มาก อำเภอประโคนชัย บุรีรัมย์ 31140

เวลาทำการ :  เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 06.00 -18.00 น.

ปราสาทเมืองต่ำ ตั้งอยู่บริเวณบ้านโคกเมือง ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ห่างจากปราสาทพนมรุ้งมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร

ปราสาทเมืองต่ำ เป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู สันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ มีลักษณะเป็นศาสนสถานประจำเมืองหรือชุมชน จากการศึกษาทางโบราณคดีพบว่า มีการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณในละแวกนี้เป็นชุมชนขนาดใหญ่ เช่น ชุมชนบ้านโคกเมือง โคกยายคาน โคกสลองตอง เป็นต้น โบราณวัตถุที่ขุดพบ ได้แก่ เครื่องมือ เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ภาชนะดินเผาเนื้อดิน เครื่องถ้วยชามเคลือบสีน้ำตาลและเคลือบสีเขียว เป็นจำนวนมาก

หลักฐานเหล่านี้แสดงถึงการตั้งถิ่นฐานของชุมชนที่มีอายุใกล้เคียงกับการสร้างปราสาท ซึ่งเป็นอิทธิพลศิลปะขอมแบบคลัง และบาปวน กำหนดอายุประมาณครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 16 หรือราว 1,000 ปีมาแล้ว

ตำแหน่งที่ตั้งของปราสาทเมืองต่ำ อยู่บนเส้นทางอารยธรรมขอมจากเมืองพระนครในประเทศกัมพูชา ขึ้นสู่ทางเหนือผ่านเทือกเขาพนมดงรัก ผ่านกลุ่มปราสาทตาเมือน จังหวัดสุรินทร์ ผ่านปราสาทเมืองต่ำสู่ปราสาทพนมรุ้ง ไปยังปราสาทพิมาย จังหวัดนครราชสีมา อาจกล่าวได้ว่าชุมชนโบราณที่ปราสาทเมืองต่ำมีความสัมพันธ์กับชุมชนโบราณใกล้เคียง บนเส้นทางอารยธรรมขอมจากเมืองพระนคร สู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย 

10 กรกฎาคม 2556 | จำนวนเข้าชม 37779 ครั้ง